- Posted By: admin
- Comments: 0
ถึงลูกจะมีปัญหาการกิน เป็นเด็กกินยาก เลือกกิน ถ้าพ่อและแม่ไม่กังวลมากจนเกินไปนัก ก็สามารถแก้ไขให้ลูกได้รับอาหารครบคุณค่าไม่ยากอาจจะให้ลูกรับประทานอาหารเสริมหรืออาหารสำหรับเด็ก พ่อแม่อาจจะกังวลว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนในวัยที่ร่างกายที่กำลังเจริญเติบโต แม่ก็มักจะจ้ำจี้จ้ำไชให้ลูกกินโน่นกินนี่ ทำให้เด็กไม่อยากที่จะกินข้าว
เวลาอาหารแต่ละมื้อเลยกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อสำหรับเด็ก ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ลูกไม่อยากกินอาหารคุณแม่อาจจะลองหาอาหารเด็กกินยากมาให้ลูกรับประทานเผื่อลูกจะรับประทานง่ายขึ้น แต่เรามาทบทวนกันหน่อยว่า ความกังวลกับอาการกินยากของลูกนั้น เป็นเรื่องที่ควรกังวลจริง ๆ หรือว่าเป็นเพียงความเชื่อ
1.ถ้าลูก ไม่กินเนื้อจะเป็นโรคโลหิตจาง
ความจริงแล้ว : ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคในสหรัฐอเมริการายงานว่า เด็กในอเมริกาที่ขาดธาตุเหล็กเป็นเด็กวัยเตาะแตะอายุระหว่าง 1-2 ปีมากที่สุดคือ 9 % เด็กอายุ 3-5 ปี 3 % และ 6-11 ปี 2 % จะเห็นว่าเด็กเล็ก ๆ มีโอกาสที่ขาดธาตุเหล็กมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่กินเนื้อแล้วเด็กจะขาดธาตุเหล็ก เพราะเนื้อยังเป็นอาหารที่ย่อยยากเกินไปสำหรับเด็กเล็ก ๆ
2.เด็กไม่กินผักจะขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ
ความจริงแล้ว : ผักมีประโยชน์ให้ทั้งวิตามิน เกลือแร่ และเป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี แต่ถ้าลูกไม่กินผัก แต่กินผลไม้ ก็ชดเชยกันได้ เพราะผลไม้ก็มีวิตามินเช่นเดียวกับผักนั่นเอง
3.น้ำตาลทำให้ลูกไฮเปอร์ฯ
ความจริงแล้ว : ไม่จริงเลย แต่ความเชื่อนี้อาจมาจากพ่อแม่เห็นเด็กมีพลังมากหลังจากกินของหวาน อย่างช็อกโกแลต หรือน้ำอัดลมซึ่งบางชนิดมีคาเฟอีนอยู่ด้วย ที่อาจเป็นสาเหตุจากคาเฟอีนที่มีอยู่ในอาหารเหล่านี้ก็ได้ที่กระตุ้นให้เด็กอยู่ไม่สุข
4. ไม่กล้าให้ลูกลองกินอาหารแปลกใหม่ กลัวลูกแพ้
ความจริงแล้ว: การแพ้อาหารนั้นไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรือพบได้บ่อยๆ จริงๆ แล้วหมอเด็กบอกว่ามีเด็ก แค่ 6-8% เท่านั้นเองที่เป็นได้ การแพ้อาหารเกิดขึ้นเพราะบางคนอาจะมีระบบภูมิต้านทานที่ไวต่อสิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาในร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่อาหารที่ไม่พิษภัยแต่อย่างใด ทำให้เกิดปฏิกิริยา เช่น เป็นผื่น ลมพิษ อาเจียน ท้องร่วง และอาหารที่ทำให้เด็กแพ้มีอยู่ไม่กี่ชนิด คือ ไข่ ถั่ว มะม่วงหิมพานต์ ข้าวสาลี ถั่วเหลือง อาหารทะเล ต้องใช้ความสังเกตดูว่าลูกกินอะไรแล้วมีอาการแพ้ทุกครั้งที่กิน
จะเห็นว่าถ้าคุณแม่รู้จักดัดแปลงอาหาร ยืดหยุ่น ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เชื่อจนเกินไปนัก หาข้อเท็จจริงของข้อมูลให้มากจะได้หมดกังวล แม้ลูกจะช่างเลือก(กิน) ก็ดัดแปลงเมนูไปได้สารพัด ตกแต่งให้ดูน่ากิน เพียงเท่านี้ก็ดึงดูดใจให้เด็กอยากที่จะกินฝีมือคุณแม่แล้ว นอกจากเมนูอาหารที่คุณแม่เลือกสรรแล้ววัตถุดิบในการปรุงอาหารก็สำคัญ อย่างน้ำสต๊อกหอมกรุ่นของเราไปใช้ประกอบการทำอาหารให้สำหรับเด็กอีกด้วย รับรองว่าอร่อย และสารอาหารครบถ้วน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำสต๊อกเด็ก